NEW MG MAXUS 7: E-MPV พร้อมเปิดจองในงาน Motor Show 2024

สำหรับ NEW MG MAXUS 7 คือ E-MPV ที่จะมาเติมเต็มความต้องการและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ากลุ่มครอบครัวสมัยใหม่ ด้วยจุดเด่นที่ยังคงความหรูหราและเหนือระดับของรถในตระกูล MG MAXUS ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ส่งมอบความสะดวกสบายครบทุกตำแหน่งที่นั่ง

Design
NEW MG MAXUS 7
มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดูล้ำสมัยตามแบบฉบับของ E-MPV ยุคใหม่ ที่เน้นความเรียบหรู
Exterior:
• มิติตัวถัง 4,907 x 1,885 x 1,768 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
• ระยะความยาวฐานล้อ 2,975 มิลลิเมตร
• กระจังหน้าแนวใหม่ Grille less Design ที่ให้ความหรูหราแบบเรียบง่าย
• ไฟหน้า ไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟท้ายแบบ LED โดยที่ไฟหน้ามาพร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ
• ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
• ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ที่มาพร้อม Aero Wheel Cover ดีไซน์ใหม่
• กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
• ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง และ สปอยเลอร์หลัง
• หลังคาพาโนรามิกซันรูฟแบบ One Touch
• ประตูสไลด์ด้านข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า
• ที่เปิดประตูแบบเก็บซ่อนในตัวรถ (Hidden Door Handle)

Interior:
อีกหนึ่งจุดเด่นของ NEW MG MAXUS 7 คือ พื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง นั่งสบาย มาพร้อมฟังก์ชัน การใช้งานที่มอบความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร มีระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และรองรับ การเชื่อมต่อหลากรูปแบบ
• ภายในห้องโดยสารสีทูโทน ตกแต่งด้วยวัสดุแบบ SOFT TOUCH
• เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa และวัสดุหนังสังเคราะห์
• ดีไซน์คอนโซลหน้าแบบ Double Layer พร้อมที่วางแก้ว และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger)
• เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังไฟฟ้า และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมปรับอุณหภูมิร้อน – เย็น ได้
• เบาะนั่งแถวที่สองแบบ Captain Seat ปรับแบบแมนนวล ที่ออกแบบให้โอบรับกระชับทุกสรีระ
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์
• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Dual Widescreen ที่เชื่อมต่อกับหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว
• ลำโพง 8 จุด
• ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB
• รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android
• กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
• ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกโซนด้านหน้าและหลัง พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5
• ระบบกุญแจนิรภัยแบบอัจฉริยะ

Performance:
• ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 245 แรงม้า (180 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร
• แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion จัดวางแบบ Cell To Pack ขนาดความจุ 90 kWh สามารถวิ่งในระยะทางสูงสุด 480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP
• แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
• ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย
• ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง
• ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์

Technology:
NEW MG MAXUS 7 มาพร้อมระบบโครงสร้างนิรภัย และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) รวม 25 ระบบ ได้แก่
• ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame)
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
• ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
• ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
• ชาร์จแบบเร็ว DC Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 30% – 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 120 kWh
• ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 5% – 100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที* รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kWh
*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า
• รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าระดับ 6.6 kW

NEW MG MAXUS 7 มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว (Pearl White) สีดำ (Black Knight) สีเทาหลังคาดำ Concrete Grey / Black Top และสีภายในดูเรียบหรูด้วยโทนสีดำและสีน้ำตาล
NEW MG MAXUS 7 ที่มีกำหนดนำเข้ามาจัดจำหน่ายและเปิดตัวในประเทศไทยภายในปี 2567 ซึ่ง เอ็มจี เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจในยนตรกรรมที่มาพร้อมกับความพรีเมียมได้สิทธิ์เป็นเจ้าของก่อนใครในงาน มอเตอร์โชว์ 2024

ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ NEW MG MAXUS 7 ภายในวันที่ 25 มีนาคม – 7 เมษายนนี้
• จอง 10,000 บาท รับส่วนลด 20,000 บาท
• ประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
• รับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)