เสริมความโดดเด่นของดีไซน์ ด้วยกระจังหน้าโครเมียมลายใหม่ มาพร้อมกับไฟหน้า LED รีเฟล็กเตอร์ และ Daytime Running Light และเสาอากาศแบบใหม่  ออกแบบด้านท้ายให้มีเส้นสายสะดุดตา ลงตัวกับไฟท้าย LED แบบ Light Guides ติดตั้งสัญลักษณ์ Hybrid บริเวณประตูท้าย และยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ คือ ราวหลังคาสไตล์สปอร์ต บ่งบอกถึงความเป็นรถครอสโอเวอร์ ที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง 

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง กับเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ถูกตกแต่งคอนโซลลายไม้ ผสมผสานกับดีไซน์คอนโซลแบบสปอร์ต มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลการขับขี่ Driving G–Force และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ครบครันด้วยหน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว มาพร้อมฟังก์ชันเอ็นเตอร์เทนเมนต์ รองรับทุกการเชื่อมต่อความบันเทิงภายในตัวรถ สะดวกไปกับแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย พวงมาลัยเป็นทรง D–Shape แนวสปอร์ต มาพร้อมกับปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มสั่งการโทรศัพท์ เพิ่มความคล่องตัวให้กับการขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control 

โดดเด่นและปลอดภัยด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT ที่ช่วยสมรรถนะในการขับขี่ มั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กล้องมองภาพด้านหลัง ระบบเซ็นเซอร์ถอยหลังพร้อมสัญญานเตือนขณะถอยจอด  ระบบ Hill Hold Control ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบ Idling Stop ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองขณะรถหยุดวิ่ง 

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร 1,462 ซีซี. พละกำลัง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับ Integrated Starter Generator (ISG) Mild Hybrid และ แบตเตอรี่ Lithium–ion 10Ah 12V จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า เคลมอัตราสิ้นเปลือง 19.2 km/L