MINI Cooper S Convertible Classic

MINI Cooper S Convertible Classic
ราคาจำหน่าย: 2,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard)
มินิรุ่นนี้พร้อมที่จะกำหนดนิยามใหม่ของยานยนต์เปิดประทุน โดยผสมผสานมรดกของความเป็นมินิและความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เสน่ห์เหนือกาลเวลาที่ส่งต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมให้ผู้ที่หลงใหลได้เป็นเจ้าของกันแบบง่ายกว่าที่เคย โดดเด่นด้วยแถบสีขาวหรือสีดำบนฝากระโปรงหน้า พร้อมฝาครอบกระจกข้างสีดำและขาว สะดุดตาด้วยไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟสำหรับขับขี่ในเวลากลางวันและไฟท้ายสไตล์ Union Jack เสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยล้อสีดำขนาด 17 นิ้วลาย Tentacle Spoke พร้อมยางรันแฟลต และยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ MINI Driving Modes และระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ขุมพลังแห่งสมรรถนะ กับเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร เสริมด้วยเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 192 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,600 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 7.1 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานควบคู่ระบบเกียร์ Steptronic Sport 7 จังหวะแบบคลัตช์คู่
เบาะนั่งสีดำ Carbon Black พวงมาลัยหุ้มหนัง Nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบมัลติฟังก์ชันให้อารมณ์สปอร์ต แพ็คเกจไฟตกแต่ง (Lights Package) และไฟในห้องโดยสารได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมจอแสดงผลมัลติฟังก์ชัน ราคาจำหน่าย 2,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard)

MINI Cooper S Hatch 3 Door Classic
นี่คือ MINI Cooper S 3 Door รุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อรำลึกถึงรถยนต์ MINI Cooper อันโด่งดังที่ปรากฏในภาพยนตร์เกี่ยวกับการโจรกรรมสุดระทึก ‘The Italian Job’ ที่เข้าฉายในปี พ.ศ. 2546 และยังเป็นการระลึกถึงความสำเร็จของภาพยนตร์ต้นฉบับสัญชาติอังกฤษในชื่อเดียวกันอีกด้วย มาพร้อมแถบสีขาวหรือสีดำบนฝากระโปรงหน้า ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ของ MINI สีแดง, น้ำเงิน, และสีขาว ที่ขับขี่โดยซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง มาร์ค วอห์ลเบิร์ก, ชาร์ลิซ เธอรอน, และเจสัน สเตแธม หลังคาและฝาครอบกระจกตกแต่งด้วยสีขาวหรือสีดำ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟสำหรับขับขี่ในเวลากลางวันและไฟท้ายสไตล์ Union Jack ล้อสีดำขนาด 17 นิ้วลาย Pedal Spoke พร้อมยางรันแฟลต
เบาะนั่งสีดำ Carbon Black พวงมาลัยหุ้มหนัง Nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบมัลติฟังก์ชันให้อารมณ์สปอร์ต แพ็คเกจไฟตกแต่ง (Lights Package) และไฟในห้องโดยสารได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมจอแสดงผลมัลติฟังก์ชัน
ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 192 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ในช่วง 1,350-4,600 รอบต่อนาที ความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 6.7 วินาที มีเฉดสีให้เลือก 8 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Island Blue, สีแดง Chili Red, สีขาว Nanuq White, สีเขียว British Racing Green, สีเทา Rooftop Grey, สีเหลือง Zesty Yellow, สีเงิน Melting Silver, และสีดำ Midnight Black ราคา 2,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard)

MINI Cooper S Clubman Multitone
กลับมาสร้างกระแสอีกครั้ง ด้วยความโดดเด่นในดีไซน์หลังคา Multitone Roof โดยนอกจากหลังคา Multitone สีแดงที่ได้สร้างเอกลักษณ์ไปในปีที่ผ่านมา ในครั้งนี้เพิ่มตัวเลือกใหม่กับหลังคา Multitone สีน้ำเงิน Soul Blue ที่สะกดทุกสายตา สะท้อนตัวตนที่แตกต่างและเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา หลังคาสีแดงหรือฟ้าไล่เฉดเปรียบเสมือนผลงานศิลปะชิ้นเอกที่รังสรรค์ด้วยเทคนิคการพ่นสีแบบ Wet-on-Wet ซึ่งเป็นนวัตกรรมล้ำสมัยจากสายการผลิต MINI ณ เมืองอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ผสานกับกระบวนการเคลือบสีแบบ Spray Tech ทำให้เกิดการไล่เรียงเฉดสีที่กลมกลืนและโดดเด่นไม่ซ้ำใคร
ทั้งนี้ การไล่เฉดสีของแต่ละคันจะมีความแตกต่างกันไป เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงระหว่างกระบวนการพ่นสี หลังคามัลติโทนแต่ละชิ้นจึงเปรียบเสมือนงานศิลปะที่งดงาม เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังดึงดูดสายตายิ่งกว่าเมื่อตัดกับตัวถังสีขาว Nanuq White
ดีไซน์มีความแตกต่างจาก MINI Cooper S Clubman Multitone Red รุ่นก่อนหน้า ล้ออัลลอยทูโทนขนาด 18 นิ้ว ลาย Multiray Spoke และยางรันแฟลต ภายในห้องโดยสารยังคงความสปอร์ตตามแบบฉบับ MINI ด้วยเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้าสไตล์สปอร์ตสีดำ Carbon Black สอดรับกับการตกแต่งพื้นผิวด้วยสีดำ Piano Black เพิ่มความหรูหราให้ห้องโดยสารขึ้นไปอีกขั้นด้วยพวงมาลัยหุ้มหนังแบบ Nappa ชุดไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร และหน้าจอระบบสัมผัสแบบดิจิทัลขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมจอแสดงผลแบบมัลติฟังก์ชัน และฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย
ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ทำงานผสานกับเกียร์ Steptronic 7 จังหวะ แรงม้าสูงสุด 192 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 7.2 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 228 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีราคาจำหน่าย 2,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard)