- News
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แต่งตั้ง มร. เรเน่ แกร์ฮาร์ด ประธานและซีอีโอคนใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประกาศแต่งตั้ง มร. เรเน่ แกร์ฮาร์ด ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอคนใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เข้ารับตำแหน่งต่อจาก มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ซึ่งย้ายไปรับตำแหน่งประธานและซีอีโอ ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป โปแลนด์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป
มร. เรเน่ แกร์ฮาร์ด จะเข้ามาบริหารบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย พร้อมด้วยประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกว่าสองทศวรรษกับ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป โดยได้รับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในประเทศเยอรมนี อินเดียและออสเตรเลีย นอกจากตำแหน่งปัจจุบันในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายขายที่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ออสเตรเลีย มร. แกร์ฮาร์ด ยังเคยรับตำแหน่ง Dealer Principal ของบีเอ็มดับเบิลยู ซิดนีย์ และ มินิ การาจ และได้ทำงานร่วมกับทีมในการยกระดับบีเอ็มดับเบิลยูสู่การเป็นผู้จำหน่ายอันดับหนึ่งในตลาดยานยนต์พรีเมียมของออสเตรเลียได้อย่างประสบความสำเร็จ ด้วยประสบการณ์ทางธุรกิจทั้งด้านขายปลีกและขายส่งยานยนต์ มร. แกร์ฮาร์ด ได้พิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพและโดดเด่น
มร. ฌอง ฟิลิปป์ ปาแร็ง รองประธานอาวุโสฝ่ายการขาย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กล่าวว่า “วิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของ มร. แกร์ฮาร์ด ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงและความร่วมมือสอดคล้องกับค่านิยมของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ซึ่งจะส่งเสริมให้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ขับเคลื่อนไปอีกระดับในตลาดยานยนต์พรีเมียมได้แน่นอน”
“นอกจากนี้ ผมขอแสดงความชื่นชม มร. บารากา กับการเป็นผู้นำอันโดดเด่นและความมุ่งมั่นที่มีต่อองค์กร ภายใต้การบริหารงานของ มร. บารากา นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้สร้างหมุดหมายแห่งความสำเร็จที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียมถึง 4 ปีติดต่อกัน การได้รับการประเมินด้านความพึงพอใจของลูกค้าสูงสุดทั้งในด้านการขายและการให้บริการลูกค้า ความทุ่มเทที่มีค่าของ มร. บารากา เป็นสิ่งที่สำคัญต่อความสำเร็จของเรา และเรามั่นใจว่า มร. บารากา จะสร้างความสำเร็จในเชิงบวกที่ดียิ่งต่อองค์กร และนำทีมใหม่ไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ขึ้นอีกอย่างแน่นอน” มร. ฌอง-ฟิลลิปป์ ปาแร็ง กล่าวสรุป
การประกาศแต่งตั้ง มร. แกร์ฮาร์ด และตำแหน่งใหม่ของ มร. บารากา ยังเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในการขับเคลื่อนสู่การเติบโตและความสำเร็จในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างมีประสิทธิภาพ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิตมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก
ในปี พ.ศ. 2566 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.5 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 209,257 คันทั่วโลก กำไรก่อนหักภาษีในปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 23.5 พันล้านยูโร จากรายได้รวม 142.6 พันล้านยูโร โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 149,475 คนทั่วโลก
ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี โดยวางรากฐานความสำคัญสำหรับอนาคตตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม โดยคำนึงถึงความยั่งยืนและการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตั้งแต่กระบวนการการผลิตสินค้าไปยังผู้บริโภค หรือซัพพลายเชนในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสี่บริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยูและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับ ผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตชิ้นส่วนสำหรับการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ จังหวัดระยอง
ในปี 2566 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 15,477 คัน โดยแบ่งเป็นยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 14,128 คัน และยอดจดทะเบียนรถยนต์มินิ 1,349 คัน ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดรวม 1,079 คัน
ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยูมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่าง ๆ ทั้งหมด 18 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็มดับเบิลยู X5 บีเอ็มดับเบิลยู X6 และบีเอ็มดับเบิลยูู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 6 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู X1 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู M760e xDrive